ช่างปั้น – รับปั้น ประติมากรรมทุกประเภท ออกแบบงานปั้น ราคากันเอง ปรึกษา ประเมินราคาฟรี พร้อมรับประกันสินค้า ผลิตโดย ช่างมากประสบการณ์ ฝีมืออลังการงานสร้าง สวยงามเหมือนของจริง ติดต่อเราที่นี่ ไม่ผิดหวังแน่นอน ร้านของเรามีช่างปั้นที่ผลิตงานอย่างประณีต ละเอียดลออ ตั้งใจทำสุดฝีมือ รังสรรค์ได้ตามแบบที่ลูกค้าจินตนาการ
เราผ่านผลงานมากแล้วมากมาย ได้แก่
- งานประติมากรรม จิตกรรม เช่น ปั้นหงส์ ปั้นกินรี สิงห์ไทย
- งานตราสัญลักษณ์ โลโก้ต่างๆ เช่น โลโก้เลขที่บ้าน โลโก้มหาวิทยาลัย โลโก้สถาบันต่างๆ
- ม็อคอัพ หล่อเรซิ่น ผลิตงาน รับหล่อไฟเบอร์กลาส
- งาน airbrushและงานปั้นโมเดล
- งานปั้นปูน หุ่นปูนปั้น รูปปั้นสัตว์
- หล่อพระพุทธรูป ปั้นพระพุทธรูป ปั้นพระรูปเหมือน เช่น ปั้นพระพิฆเนศ ปั้นเจ้าแม่กวนอิม
- หรือปั้นอย่างเดียว หรือหล่ออย่างเดียวเราก็ทำให้ท่านได้
เรารับปั้น ทำครบวงจร จบครบที่นี้ที่เดียว พร้อมเทคโนโลยีที่ครบครันทันสมัย เรายินดีปรับเปลี่ยนและแก้ไขตามความต้องการของลูกค้า รับประกันความพึงพอใจ งานคุณภาพ โดยช่างปั้นระดับมืออาชีพ กับทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้วยประสบการณ์นานกว่า 15 ปี
ช่างปั้น คือ ?
ช่างปั้น คือ บุคคลประเภทหนึ่ง ที่มีทั้งฝีมือ และความสามารถเป็นช่าง กระทำการประมวลวัสดุต่างๆ อาทิ ดิน ปูน ขี้ผึ้ง อย่างใดอย่างหนึ่ง มาประกอบเข้าด้วยกันสร้างเป็นรูปทรงที่มีศิลปะลักษณะ พร้อมอยู่ในรูปวัตถุที่ได้สร้าง ขึ้นนั้นได้เป็นอย่างดี และมีคุณค่าในทางศิลปกรรม
งานปั้น คือ ?
งานปั้น หมายถึง การนำเอาวัสดุอ่อนที่สามารถรวมกันได้ หรือแบ่งแยกออกจากันได้ เช่น ดินเหนียว ดินน้ำมัน ขี้ผึ้ง มาตกแต่งทำเป็นรูปทรงต่าง ๆ ตามต้องการ โดยใช้วิธีขยำ บีบ นวด ตัด ขัด ขูด ปะ เป็นต้น
วัสดุและอุปกร์ที่ใช้ในงานปั้น มีดังนี้
- วัสดุที่ใช้ปั้น แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- วัสดุธรรมชาติ เป็นวัสดุที่มีอยู่ในธรรมชาติ ได้ เช่น ดินเหนียว น้ำตาลเคี่ยวจนเหนียว เป็นต้น
- วัสดุสังเคราะห์ เป็นวัสดุที่คนเราสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อนำมาใช้ในงานปั้นโดยเฉพาะ เช่น ดินน้ำมัน แป้งโค เป็นต้น
- อุปกรณ์ที่ใช้ในงานปั้น มักจะประกอบไปด้วย ไม้กระดานรองปั้น และอุปกรณ์ตกแต่งลวดลายต่าง ๆ
ประติมากรรม คือ ?
ประติมากรรม (Sculpture) เป็นผลงานศิลปะที่แสดงออกด้วยการสร้างรูปทรง 3 มิติ มีปริมาตร มีน้ำหนักและกินเนื้อที่ในอากาศ โดยการใช้วัสดุชนิดต่าง ๆ วัสดุที่ใช้สร้างสรรค์งานประติมากรรม จะเป็นตัวกำหนด วิธีการสร้างผลงาน ความงามของงานประติมากรรม เกิดจากการแสงและเงา ที่ เกิดขึ้นในผลงานการสร้างงานประติมากรรมทำได้ 4 วิธี คือ
- การปั้น (Casting) เป็นการสร้างรูปทรง 3 มิติ จากวัสดุ ทีเหนียว อ่อนตัว และยึดจับตัว กันได้ดี วัสดุที่นิยมนำมาใช้ปั้น ได้แก่ ดินเหนียว ดินน้ำมัน ปูน แป้ง ขี้ผึ้ง เป็นต้น
- การแกะสลัก (Carving) เป็นการสร้างรูปทรง 3 มิติ จากวัสดุที่ แข็ง เปราะ วัสดุที่นิยมนำมาแกะ ได้แก่ ไม้ หิน กระจก แก้ว ปูนปลาสเตอร์ เป็นต้น
- การหล่อ (Molding) เป็นการสร้างรูปทราง 3 มิติ จากวัสดุที่หลอมตัวได้และกลับแข็ง ตัวได้ โดยอาศัยแม่พิมพ์ วัสดุที่นิยมนำมาใช้หล่อ ได้แก่ โลหะ ปูน แป้ง แก้ว ขี้ผึ้ง ดิน เรซิ่น พลาสติก เป็นต้น
- การประกอบขึ้นรูป (Construction) เป็นการสร้างรูปทรง 3 มิติโดยการนำวัสดุต่าง ๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน และยึดติดกันด้วยวัสดุต่าง ๆ มี 3 ลักษณะ คือ แบบนูนต่ำ แบบนูนสูง และแบบลอยตัว
รูปแบบของงานปั้น
การปั้นดินเหนียว สามารถปั้นได้หลายแบบ ได้แก่
- การปั้นแบบลอยตัว เป็นการสร้างสรรค์งานปั้นให้เป็นรูปทรงที่สามารถมองเห็นได้ทุกด้าน
- การปั้นแบบนูนต่ำ เป็นงานปั้นที่มีแผ่นหลังรองรับ และมีภาพนูนออกจากแผ่นรองรับเพียงเล็กน้อย เน้นความงดงามของภาพด้านหน้า
- การปั้นแบบนูนสูง มีลักษณะเหมือนกับรูปปั้นนูนต่ำ แต่ภาพจะนูนออกมามากกว่า เน้นความงดงามของภาพด้านหน้าและด้านข้าง
งานปั้นไทย
ทำขึ้นเป็นงานปั้นแบบไทยประเพณี ด้วยโบราณวิธี ตามความรู้ของช่างปั้นแต่ก่อนนั้น อาจจำแนกงานปั้น และ วิธีการปั้นดินออกเป็นแต่ละประเภท คือ
- งานปั้นดินดิบ งานปั้นประเภทนี้ใช้ดินเหนียว ที่นำมาจากแหล่งดินในธรรมชาติทั่วไป หากต้องการให้มีความแข็งแรง และคงทนอยู่ได้นานๆ จึงนำเอาวัสดุบางอย่างผสมร่วมเข้ากับเนื้อดิน เพื่อเสริมให้ดินมีโครงสร้างแข็งแรงขึ้นเป็นพิเศษ ได้แก่ กระดาษฟาง กระดาษข่อย และตัวไพ่จีน เป็นต้น ยกตัวอย่าง เช่น รูปปั้นหัววัว รูปปั้นหัวกวาง สำหรับแขวนประดับฝาผนัง รูปปั้นฤาษีต่างๆ รูปปั้นนางกวัก รูปปั้นละครยก ตุ๊กตาชาววัง เป็นต้น
- งานปั้นดินเผา เป็นงานปั้นประเภทใช้ดินเหนียว ซึ่งนำมาจากแหล่งดินในธรรมชาติทั่วไป เช่นเดียวกับดินที่ ใช้ในงานปั้นดินดิบ แต่เนื้อดินที่จะใช้ในงานปั้นดินเผา ต้องใช้ทรายแม่น้ำ ที่ผ่านการร่อนเอาแต่ทรายละเอียดผสม ร่วมกับเนื้อดินแล้ว นวดดินกับทรายให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน และทำให้เนื้อดินแน่น อนึ่ง การที่ใช้ทรายผสม ร่วมกับดินเหนียวเช่นนี้ ก็เพื่อช่วยมิให้เนื้อดินแตกร้าว เมื่อแห้งสนิท และ นำเข้าเผาไฟให้สุก ยกตัวอย่างเช่น พระพุทธพิมพ์ พระพุทธปฎิมากรรม เป็นต้น
งานปั้นดินดิบ และ งานปั้นดินเผา ในลักษณะงานปั้นแบบไทยประเพณี ช่างปั้นอาศัยเครื่องมือร่วมด้วยกับการปั้นด้วยมือของช่างปั้นเองด้วย เครื่องมือ สำหรับงานปั้นดินอย่างโบราณวิธี มีดังนี้
- ไม้ขูด ใช้สำหรับขูด ควักดิน
- ไม้เนียน ใช้สำหรับปั้นแต่งส่วนย่อยๆ
- ไม้กวด ใช้สำหรับกวดดินให้เรียบ
- ไม้กราด ใช้สำหรับขูดผิวดิน ส่วนที่ไม่ต้องการออกจากงานปั้น
งานปั้นสากล
ส่วนใหญ่ช่างปั้น จะนำเสนอผลงานปั้นที่แสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด หรือความงาม แสดงออกมาในรูปลักษณ์ต่างๆ โดยมีจุดประสงค์ที่แน่นอน และมีความคิดสร้างสรรค์ ในการสื่อถึงสิ่งนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น สภาพสังคม สภาวะแวดล้อม วัฒนธรรม รวมถึงจิตใจของมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่น รูปปั้นเทพีเสรีภาพ อยู่ที่ เกาะลิเบอร์ตี, แมนแฮตตัน และนิวยอรก์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ประติมากรโดย เฟรเดริก โอกุสต์ บาร์โทลดี สร้างขึ้นในปี 1886 เป็นรูปปั้นที่แสดงออกถึงแนวคิดของเสรีภาพ
ประติมากรรม งานปั้น แบ่งออกเป็นกี่ชนิด ?
ประติมากรรมเป็นผลงานรูปทรงที่ช่างปั้นสร้างขึ้นเป็นลักษณะ 3 มิติ โดยการใช้วัสดุชนิดต่าง ๆ มีความลึกหรือนูนหนา สามารถสื่อถึงสิ่งต่างๆ สภาพสังคม วัฒนธรรม วัสดุที่ใช้สร้างสรรค์ จะเป็นตัวกำหนด วิธีการสร้างผลงาน เป็นงานศิลปะที่แสดงออกด้วยการปั้น แกะสลัก หล่อ และการจัดองค์ประกอบความงามอื่น ลงบนสื่อต่างๆ เช่น ไม้ หิน โลหะ สัมฤทธิ์ ฯลฯ
รูปแบบของประติมากรรมที่เกิดจากกระบวนการเหล่านี้มี 3 แบบเช่นกัน คือรูปแบบลอยตัว รูปแบบนูนสูง และรูปแบบนูนต่ำ รูปแบบทั้งหลายนี้ศิลปินจะเลือกทำตามความเหมาะสมและประโยชน์ใช้สอยที่ตนและสังคมต้องการ นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมโมบาย ที่แขวนลอยและเคลื่อนไหวได้ และประติมากรรมติดตั้งชั่วคราวกลางแจ้ง (Installation Art) ที่เรียกว่า ศิลปะจัดวาง
งานประติมากรรมนั้น แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- ประติมากรรมลอยตัว ( Round – Relief ) ได้แก่ ประติมากรรมที่ปั้น หล่อ หรือแกะสลักขึ้นเป็นรูปร่างลอยตัวมองได้รอบด้าน ไม่มีพื้นหลัง เช่น รูปประติมากรรมที่เป็นอนุสาวรีย์ประติมากรรมรูปเหมือน และพระพุทธรูปลอยตัวสมัยต่าง ๆ ตลอดไปจนถึงประติมากรรมสำหรับประดับตกแต่ง เป็นต้น ประติมากรรมประเภทลอยตัวของไทยที่รู้จักกันดี คือ พระพุทธรูปสมัยต่าง ๆ โดยเฉพาะพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปคลาสิคของไทยนั้นนับเป็นประติมากรรมลอยตัวที่สมบูรณ์แบบที่สุดของไทย
- ประติมากรรมประเภทนูนสูง ( High – Relief ) ได้แก่ ประติมากรรมที่ไม่ลอยตัว มีพื้นหลัง ตัวประติมากรรมจะยื่นออกมาจากพื้นหลังค่อนข้างสูง แต่มีพื้นเป็นฉากหลังประกอบอยู่ ประติมากรรมประเภทนี้มักใช้ตกแต่งอาคารสถาปัตยกรรมพุทธศาสนาฐานอนุสาวรีย์อาคารทั่วไป เป็นประติมากรรมที่นิยมสร้างขึ้นเพื่อประดับตกแต่งอาคารสถาปัตยกรรมพุทธศาสนาแต่อดีต เช่น ประติมากรรมตกแต่งกระวิหารวัดไลย์ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
- ประติมากรรมประเภทนูนต่ำ ( Bas – Relief ) ได้แก่ งานประติมากรรมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับประติมากรรมประเภทนูนสูง แต่จะแบนหรือบางกว่าประติมากรรมประเภทนี้ ไม่ปรากฏมากนักในอดีต ซึ่งมักจะได้แก่ ประติมากรรมที่เป็นลวดลายประดับตกแต่ง เช่น แกะสลักด้วยไม้ หิน ปูนปั้น เป็นต้น ในปัจจุบันมีทำกันมากเพราะใช้เป็นงานประดับตกแต่งได้ดี ซึ่งอาจจะปั้นเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ตามวัตถุประสงค์ของสถาปัตยกรรมที่นำประติมากรรมนั้น นอกจากนี้ ประติมากรรมประเภทนี้ยังใช้ได้ดีในการปั้นเหรียญชนิดต่าง ๆ รวมถึงการปั้นเครื่องหมาย ตรา เครื่องหมายต่าง ๆ กันอย่างแพร่หลาย
ประติมากรรมที่มีลักษณะสูงต่ำทั้ง 3 ประเภท มีความสำคัญและการนำไปใช้เพื่อความเหมาะสมต่างๆ กัน ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- เพื่อเป็นการจำลองคนที่เราเคารพนับถือให้มีรูปแบบหลงเหลือเพื่อเตือนให้ระลึกถึง หรือเพื่อเคารพบูชา
- เพื่อเป็นการบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมให้เป็นรูปทรงปรากฎเป็นหลักฐานทางด้านประวัติศาสตร์
- เพื่อเป็นการปลุกเร้าให้ผู้พบเห็นตระหนักในความสำคัญของการอยู่ร่วมกัน ความสามัคคี และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม
- เพื่อเป็นการแสดงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของสังคมนั้นๆ